วัวชนใต้สะพัดปีละ7.3หมื่นล. ไม่ใช่แค่อัตลักษณ์โยง’การเมือง-อำนาจ’
ชนวัวเป็นความบันเทิงพื้นบ้านของชุมชนในแถบลุ่มทะเลสาบสงขลา ลุ่มน้ำปัตตานี ลุ่มน้ำโกลก และไชยาพุมเรียง มาแต่เก่าก่อน จวบจนเกิด พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 สนามชนวัวที่เคยอยู่ตามลานบ้านหรือหัวไร่ปลายนาก็ถูกจัดที่ทางให้มีความชัดเจนขึ้นกลายเป็น ‘สนามกีฬาชนวัว’ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือบ่อนชนวัว
ปี 2540 กีฬาชนวัวในภาคใต้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสนามชนวัวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มีการนำการบริหารจัดการแบบใหม่ในระบบธุรกิจ และการเลี้ยงวัวชน เริ่มนำวิทยาการสมัยใหม่มาผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้านมากขึ้นเพื่อชัยชนะในสังเวียน กระทั่งปี 2555 ใน 7 จังหวัดภาคใต้-สงขลานครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี และสตูล ก็มีสนามชนวัวถูกกฎหมายอยู่ถึง 28 แห่ง และบ่อนซ้อมหรือสนามชนวัวผิดกฎหมายอีก 32 แห่ง
ทว่า ในพื้นที่ของสังเวียนวัวมิใช่เป็นเรื่องของการพนันขันต่อเพียงอย่างเดียว หากยังแฝงนัยทางอำนาจที่ผูกโยงกับอัตลักษณ์ของคนใต้ และเลี่ยงไม่ได้ที่อำนาจนี้ย่อมถูกการเมืองนำไปใช้เป็นฐาน บ่อนวัวชนจึงเปรียบเสมือนพื้นที่อิสระจากรัฐ ที่หากใครพาตนเองเข้าไปอ้างอิงได้ ย่อมหมายถึงสถานะแห่งการยอมรับ ยังไม่นับตัวเงินสะพัดในบ่อนหลายหมื่นล้านบาท ที่สร้างวงจรเศรษฐกิจต่อเนื่องอีกมากมาย
“ในเชิงภาพลักษณ์ มันเป็นภาพของอิทธิพล นักเลง ยิงกันตาย แต่ก็มีน้อยมากเหมือนกัน แล้วก็ไม่ใช่ยิงกันในสังเวียนนะ ในบ่อนวัวชนจึงไม่มีปัญหาพวกนี้ เพียงแต่ในอดีต เจ้าของสนามอาจจะเป็นผู้มีอิทธิพลที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ที่มาดูวัวชนแล้วไม่ปฏิบัติตามบรรทัดฐาน บ่อนวัวชนจึงเป็นอิสระจากอำนาจรัฐค่อนข้างมาก เขาจะจัดการชุมชน จัดการคนที่มาอยู่ร่วมกันเฉียด 3 พันคนยังไง เขาก็จัดการตามบุคลิกภาพของนายสนาม ก็คือความรุนแรงที่จะจัดการกับคนที่ไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู ต้มวัว (หมายถึงล้มวัว ลักษณะเดียวกันกับการล้มมวยหรือการโกงเพื่อให้ฝ่ายตนชนะ) หรือเล่นการพนันแล้วไม่จ่ายเวลาได้เสีย” ดร.รงค์กล่าว
เจริญ เส้งสุ้น อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง อ.ศรีนครินทร์ นายสนามชนกีฬาชนโค บ้านท่ามิหรำ สนามชนวัวที่ใหญ่ที่สุดของภาคใต้ กล่าวว่า วัวต้มกัน คนก็ไม่มา เสียชื่อ เขาประกาศชัดว่าบ่อนของเขาจะต้องไม่มีการต้มวัวเด็ดขาด
“ใครจะมาขอโกงสนามผม ไม่ต้อง ไม่ขอ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องหรือใคร มันทำให้พวกที่เล่นเสียหาย แทงแล้วเสีย 2 หมื่นไม่เป็นไร แต่ถ้าโดนเพื่อนโกงแค่ 20 บาทก็เสียใจแล้ว”เล่าลือกันว่า ในอดีต การต้มวัวถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่อาจจบลงด้วยชีวิตของผู้ที่บังอาจขัดขืนประกาศิตของนายสนาม ดร.รงค์ ยืนยันว่า ‘ล้มวัวแล้วได้ยิง’ เป็นความจริง มันคือประกาศิตที่กึกก้องอยู่ในหูของสังคมคนชนวัว ซึ่งปัจจุบันไม่มีการพิพากษาในลักษณะนี้แล้ว
ติดตามข่าวสารวงการวัวชน ได้ที่ เพจวัวชน
กลุ่มทีเด็ดวัวชน @wuachonth
คลิปวัวชน ไฮไลท์วัวชน
ทีเด็ดวัวชน ช่องวัวชน
รับชมถ่ายทอดสดการแข่งขันวัวชน เว็บวัวชน