รายแรกของไทย ได้มาตรฐาน มอก.“สนามวัวชน” เตรียมยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
สนามวัวชน สร้างรายได้สู่ชุมชน ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มธุรกิจเกิดใหม่ (Start-up) เปิดให้บริการสนามกีฬาชนโคเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจ และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ส่งผลดีทางอ้อมในการสร้างงานสร้างอาชีพให้ชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบสนามกีฬา โดยมีรายได้จากการเลี้ยงวัวชน ปลูกหญ้า โรงแรมที่พัก การคมนาคม การขนส่ง การค้าขาย และการท่องเที่ยว สนามกีฬาชนวัวจึงไม่ใช่แค่กีฬาเพื่อความบันเทิงเชิงวัฒนธรรมพื้นบ้านเท่านั้น
แต่มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาให้เป็นสนามกีฬาระดับมาตรฐาน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ปลอดภัย มีสุขอนามัยที่ดี และมีการควบคุมโรคที่เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสนามชนวัวที่ได้มาตรฐานนั้นจะต้องมีคุณภาพที่สม่ำเสมอของการให้บริการ ต้องได้รับใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการจัดตั้งสถานที่ชนวัว ต้องจัดเตรียมสถานที่ เช่น สนามชนวัว สนามเปรียบวัว ให้มีพื้นที่เพียงพอ เป็นสัดส่วน ปลอดภัย สะอาด และถูกสุขลักษณะ
ต้องกำหนดเลขที่นั่งสำหรับผู้เข้าชมอย่างชัดเจน เพื่อความปลอดภัยของคนและวัว ต้องมีการดำเนินการให้พื้นสนามมีลักษณะที่ลดการบาดเจ็บของวัว เช่น ผิวสนามเป็นดินทรายที่มีความหนาของทรายมากกว่า 15 เซนติเมตร จัดให้มีที่นั่งอัฒจันทร์ มีการระบุเลขที่นั่งชัดเจน เป็นสัดส่วน และต้องมีความแข็งแรง มีการเว้นระยะห่างเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้เข้าชม และป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาด และมีที่กั้นที่มีความมั่นคงแข็งแรงระหว่างสนามกับผู้ชม เป็นต้น

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs โดยประกาศเป็นวาระแห่งชาติ
เพื่อผลักดันให้มีขีดความสามารถในการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก เนื่องจาก SMEs เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ส่งเสริมพัฒนาและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs มาอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการและมาตรการสำคัญต่างๆ
อาทิ โครงการให้คำปรึกษาแนะนำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน การออกแบบรรจุภัณฑ์ ฉลาก สติกเกอร์ ฯลฯ และมาตรการเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจให้กับ SMEs เช่น สินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SMEs ดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงิน 1,000 ล้านบาท
โดยมีผู้ประกอบการ SMEs ได้รับการรับรองแล้วจำนวน 72 ราย สำหรับบริษัท วัวชนทุ่งทะเลหลวงสุโขทัย จำกัด เป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่ให้บริการสนามกีฬาชนโค ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย นับเป็น SMEs รายแรกของไทย
ที่ให้บริการสนามกีฬาชนโคที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. เอส เพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม มอก.เอส เลขที่ 188-2564 จาก สมอ. ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการ SME ต้นแบบที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายอื่นต่อไป
สินเชื่อสร้างโอกาส เสริมสภาพคล่อง SME ดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงิน 500 ล้านบาท และสินเชื่อ “SMEs Happy” วงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นต้น เพื่อยกระดับและพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ SMEs ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า
ล่าสุด สมอ. ได้ออกใบรับรองมาตรฐาน มอก. เอส ให้แก่บริษัท วัวชนทุ่งทะเลหลวงสุโขทัย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ SMEs รายแรกของไทย และรายแรกของโลกที่ได้มาตรฐานการให้บริการสนามชนวัว และเตรียมผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่อไป
นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า มาตรฐานอุตสาหกรรมเอส หรือ “มอก. เอส” เป็นมาตรฐานสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ สมอ. ได้ให้การรับรองสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ปัจจุบัน สมอ. ได้กำหนดมาตรฐาน มอก. เอส แล้วทั้งสิ้น 179 มาตรฐาน แบ่งเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ จำนวน 111 มาตรฐาน และมาตรฐานด้านการบริการ จำนวน 68 มาตรฐาน
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการ SMEs ต้องการยื่นขอการรับรอง มอก.เอส สามารถตรวจสอบรายชื่อมาตรฐาน มอก.เอส ได้ที่ https://www.tisi.go.th/website/tiss/tis_s
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอการรับรอง ได้ที่ https://www.tisi.go.th/data/tis_s/pdf/system_certification_S.pdf
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่กลุ่มหน่วยตรวจสอบและรับรอง กองกำกับองค์กรด้านการมาตรฐาน สมอ. โทรศัพท์ 0-2430-1530…
ข้อมูลจาก : https://www.dailynews.co.th/news/633241/