กำหนดนัดหมาย การเปรียบวัว ที่สนามวัวหรือที่ใดที่หนึ่ง
การเปรียบวัว เนื่องจากวัวชนนำเงินนำทองให้เจ้าของปีละมากๆ จึงต้องเลี้ยงดูกันอย่างดี มีหญ้าน้ำให้กินอย่างอุดมสมบูรณ์ อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณวันละ 2 หน ต้องฝึกหัดกำลังให้วิ่งทุกๆ เช้าเย็น และใช้ไม้ตีที่คอทุกวันเพื่อให้มีกล้ามเนื้อขึ้นทำให้คอแข็งแรงและให้ฝึกชนกับวัวอื่นๆ บ้าง แต่ไม่ถึงกับให้แพ้ชนะกันเช่นเดียวกับซ้อมมวย ผู้เลี้ยงจะต้องคอยดูแลอย่างดี มิให้ใครเข้าใกล้โดยเฉพาะคนฝ่ายตรงกันข้าม กลางคืนถ้ามียุงชุมจะให้นอนในมุ้งอย่างดี เรียกว่าให้อยู่ดีกินดีเหมือนหรือยิ่งกว่าปฏิบัติกับลูกเมียหรือพ่อแม่ของเขาทีเดียว ยิ่งใกล้วันชนด้วยแล้วก็ยิ่งเลี้ยงดูแลพิทักษ์รักษาอย่างดีพิเศษขึ้นไปอีก เพราะอาจถูกฝ่ายตรงกันข้ามลอบวางยาหรือทำอาถรรพ์อย่างหนึ่งอย่างใดให้พ่ายแพ้ได้
ก่อนจะชนจะมีการเปรียบวัว คือนำวัวไปที่สนามวัวหรือที่ใดที่หนึ่งซึ่งกำหนดนัดหมาย เพื่อเปรียบดูวัวที่จะชนกันเหมือนกับการเปรียบมวย คือนำวัวไปยืนใกล้ๆ กัน เพื่อดูให้แน่ว่าตัวไหนมีส่วนได้เปรียบเสียเปรียบกันตรงไหน ถ้าเห็นว่าต่างก็ไม่ได้เปรียบเสียเปรียบกันเท่าไรจึงตกลงชนกันได้ หรือของใครมีดีพิเศษถึงจะเสียเปรียบในรูปร่างส่วนสัดกันบ้างเขาก็ยอม
เมื่อเปรียบวัวกันจนเป็นที่ตกลงกันแล้วว่าจะชนกันได้ก็จะวางเงินเดิมพันกันไว้ มากน้อยแล้วแต่ตกลงกันว่า ถ้าฝ่ายใดไม่นำวัวของตนมาชนตามวันที่กำหนด จะต้องเสียค่าปรับครึ่งหนึ่งหรือทั้งหมดให้แก่ทางสนามและต้องมัดจำไว้ 30 เปอร์เซ็นต์ และแล้วก็จะกำหนดวันชน ซึ่งโดยทั่วทางสนามจะจัดรายการเอง วัวชนนี้เขามักกำหนดกันแน่นอนเหมือนการชกมวย และโดยมากมักกำหนดชนในวันอาทิตย์อาจจะทุกวันอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ต่อ 1 ครั้ง วัวที่เปรียบกันได้คู่แล้วจะจัดเข้ารายการไม่เร็วกว่า 2-3 สัปดาห์ หลังจากได้เปรียบวัว ทั้งนี้เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวนั่นเอง
ก่อนวันชนหนึ่งหรือสองวัน เขาจะเก็ยวัวไว้แต่เฉพาะในโรงวัวซึ่งสร้างขึ้นอย่างพิเศษสำหรับวัวตัวนั้นเท่านั้น วัวชนจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นพิเศษ โดยเขาจะนำหญ้าและน้ำมาให้กินในโรงวัวนั้นเลย บางรายให้กินไข่ไก่ถึงวันละ 10-15 ฟองก็มี หรือไม่ก็จะพาออกวิ่งบ้างเดินบ้างในตอนเช้ามืดหรือในตอนเย็น เป็นการออกกำลังกาย และมีคนเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด ตลอดเวลาทั้งกลางคืนกลางวัน มีหมอวัวเสกหญ้าและน้ำให้กินเพื่อให้มีกำลังและช่วยขจัดปัดเป่าการกระทำคุณไสย มีการประพรมน้ำมนต์น้ำพร หมอบางคนจะมีกรวยทำด้วยใบตองหรือปลอกเขาซึ่งทำด้วยทองเหลืองหรือไม้ไผ่สวมเขาทั้งสองไว้ มีผ้ายันต์ ผ้าประเจียดผูกคอวัว ซึ่งจะถอดออกเมื่อจะปล่อยให้วัวชนกัน ในขณะที่อยู่ในพิธีนี้วัวดีบางตัวจะให้ฝันแก่เจ้าของตัวจะแพ้หรือจะชนะ
ในวันชน เมื่อใกล้ถึงเวลาคือประมาณ 1-2 ชั่วโมง เจ้าของวัวจะนำวัวมาในห้องพักวัว (แต่ปัจจุบันนี้มักไม่ค่อยจะมีห้องพักวัวแล้วแต่นำออกจากโรงวัวเข้าไปในสนามเมื่อถึงเวลา สมัยก่อนมีการแห่แหนวัวออกจากโรงวัวโดยมีคนถือฆ้องเดินตีนำหน้าและจะคลุมวัวด้วยผ้าสี ดูแล้วเป็นที่เกรงขาม) ขณะที่นำวัวเข้าสนามนั้นจะมีพิธีทางไสยศาสตร์คือมีหมอวัวถือหม้อดินน้ำมนต์เดินประพรมน้ำมนต์นำหน้า เจ้าของวัวจูงวัวตามหมอ พี่เลี้ยงหรือคนเลี้ยงวัวถือหญ้าน้ำซึ่งปลุกเสกแล้วเดินตามหลังวัวไป และต้องออกตามฤกษ์ยามดีมีชัยด้วย
สนามชนวัวมักจัดทำไว้ถาวรเหมือนสนามมวย มีรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือเป็นวงกลม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อที่ด้วย อย่างไรก็ดีเนื้อที่ของสนามชนวัวมักมี 2-3 ไร่
เมื่อถึงเวลาชนหมอจะประพรมน้ำมนต์วัวแล้วเดินนำหน้า มีคน 2 คนจูงวัวตามหลัง ที่ต้องจูงสองคนเพราะจับปลายเชือกคนละข้าง เชือกนั้นยาวประมาณ 1 เมตร สอดเข้าไปในห่วงหวายที่ร้อยจมูกวัวไว้ (ห่วงหวายที่ว่านี้ชาวภาคใต้เรียกว่า “เทียนพราง” ) พอถึงกลางสนามคนหนึ่งจะปล่อยก่อน อีกคนหนึ่งจะดึงเชือกนั้นให้หลุดจากห่วงหวาย เวลาจะปล่อยเชือกนี้จะตีกลองสัญญาณ 2 ครั้งเพื่อได้ปล่อยวัวพร้อมกัน วัวทั้งสองจะได้เข้าชนกัน
วัวบางคู่กว่าจะแพ้ชนะกันอาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทั้งนี้เพราะต่างตัวต่างฉลาด บางตัวมีวิธีการต่อสู้โดยแทงด้วยเขา บางตัวแทงแล้วบิด บางตัวขัดเขาแล้วงัด บางตัวเอาเขาเข้าฟัน บางทีดันเข้าข้างตัวของคู่ต่อสู้ ซึ่งชาวภาคใต้เรียกว่า “เอาเพลียง” หรือ “พาเพลียง” บางตัวขึ้นทับหรือขึ้นขี่ ชาวภาคใต้เรียกว่า “ขึ้นเหง” เป็นการตัดกำลังให้คู่ต่อสู้เหนื่อย อย่างไรก็ดีในการตัดสินแพ้ชนะมีกติกาของสนามไว้ดังนี้
- ก่อนจะชนถ้าพิสูจน์ได้ว่าฝ่ายใดถูกยาหรือถูกกระทำ กรรมการอาจไม่ให้ชนและริบเงิน เพื่อรักษาชื่อเสียงของสนามและเพื่อไม่ให้สัตว์ทรมาน
- ห้ามมิให้ทาน้ำมันหรือเมือกทุกชนิด ส่วนจะสวมเครื่องรางของขลังให้วัวก็แล้วแต่จะตกลงกันในวันทำสัญญา
- เมื่อตีกลอง 2 ครั้งให้พาวัวเข้าชน โดยมีคนพาเข้าชน 2 คน
- ให้พาวัวเข้าไปชนในลักษณะหน้ากระดานเขาหากัน จะแกล้งชักเชือกหรือตีวัวให้ตกใจไม่ได้
- ห้ามตีวัวฝ่ายตรงข้าม แต่วัวฝ่ายตัวเองให้ตีได้
- วัวที่ล้ม ถ้าไม่ลุกภายใน 5 นาทีถือว่าแพ้ ถ้าลุกก่อนให้ชนต่อไปได้ ถ้าลุกแล้วหนี กรรมการจะให้เวลา 5 นาที ถ้าไม่ชนถือว่าแพ้เด็ดขาด
- ถ้าเขาคีบกันไม่หลุดภายใน 1 ชั่วโมงถือว่าเสมอ
- ถ้าชนกันรั้วพัง วัวออกไปชนนอกรั้ว ทางสนามจะตีกลองให้นำวัวมาชนข้างใน วัวใครไม่เข้ามาถือว่าแพ้
- ขณะชนกัน ถ้าตัวใดกระโดดหนีออกนอกรั้วถือว่าแพ้เด็ดขาด ถ้าตัวชนะกระโดตามไปนอกรั้วต้องนำมาชนใหม่ภายใน 10 นาที ถ้านำเข้ามาไม่ได้ทั้งสองตัว ถือว่าเสมอกัน
- ถ้าวัวร้างลากันไป โดยไม่แสดงว่าตัวไหนแพ้ชนะ ให้กรรมการตีกลอง 2 ที เพื่อให้ชนกันใหม่
- วัวชนคู่ใดเกิดมีปัญหาด้วยประการใดก็ดี นอกเหนือไปจากกติกาของสนามหรือไม่ชัดเจนก็ดี ให้กรรมการปรึกษากัน 3 นาย ถือเสียงข้างมากเป็นการตัดสินเด็ดขาด
- ผู้เล่นในสนามจะต้องยินยอมตามคำตัดสินของกรรมการ จะอุทธรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งมิได้
- เงินเดิมพันกรรมการจะถือไว้ ค่อยจ่ายให้แก่ผู้ชนะและแบ่งคืนให้แก่ผู้เสมอกัน ใครจะคัดค้านไม่ได้
- กรรมการหรือนายสนามชนวัวมีอำนาจรักษาความสงบเรียบร้อยในสนามและมีอำนาจห้ามผู้ที่มีความประพฤติไม่เรียบร้อยเข้าสนามได้มีกำหนด 3 เดือน
กีฬาชนวัวในภาคใต้ โดยเฉพาะที่นครศรีธรรมราชกำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในวันที่วัวชนชาวบ้านชาวบ้านชาวเมืองแทบทุกอาชีพจะแห่กันไปดูการชนอย่างหนาแน่นและการชนวัวในบางคราวมีติดต่อกันเป็นแรมเดือน จึงเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างยิ่ง เพราะว่าการพนันย่อมมีทั้งผู้ได้และผู้เสีย ด้วยเหตุนี้ถ้าหากไม่มีขอบเขตจำกัดเสียบ้าง ผลเสียในหลายๆ ด้านย่อมจะบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยมีที่ใดพอเป็นประจักษ์พยานได้ว่าการพนันนำมาซึ่งความสงบสุขและความรุ่งเรือง